สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
สิทธิของสมาชิก
ข้อบังคับสมาคมฯ ข้อ 21 สมาชิกมีสิทธิดังต่อไปนี้
1. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของสมาคมต่อคณะกรรมการและเรียกร้องให้คณะกรรมการกระทำหรืองดเว้นการกระทำเพื่อประโยชน์ของสมาคม
2. เข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการเพื่อบริหารงานสมาคมรวมทั้งออกเสียงลงคะแนนทุกครั้ง
3. ขอตรวจสอบบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบการดำเนินการของสมาคม ในวันเวลาเปิดทำการ
4. ลงชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 50 คน หรือจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร้องขอต่อคณะกรรมการให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อการใดการหนึ่งเมื่อใดก็ได้
5. ร้องขอต่อนายทะเบียนให้สั่งเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้าได้นัดเรียกหรือได้ประชุมกันหรือได้ลงมติฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือข้อบังคับของสมาคม และต้องร้องขอภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่ลงมติ
6. ขอตรวจเอกสาร คัดเอกสาร หรือขอคัดรายงานและรับรองสำเนาเอกสารของสมาคมจากนายทะเบียน
7. ลงชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร้องขอนายทะเบียน สั่งให้เลิกสมาคมพร้อมด้วยเหตุผล หรือร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งให้เลิกสมาคม
8. แสดงความจำนงต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อเป็นผู้ชำระบัญชีในกรณีที่สมาคมต้องเลิกตามมติที่ประชุมใหญ่
9. ลงชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร้องขอต่อนายทะเบียนเพื่อ แต่งตั้งผู้ชำระบัญชีคนใหม่แทนผู้ชำระบัญชีที่ได้ตั้งไว้
10. อุทธรณ์ต่อสมาคม กรณีคณะกรรมการมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพ
หน้าที่ของสมาชิก
ข้อบังคับสมาคมฯ ข้อ 22 สมาชิกมีหน้าที่ ดังนี้
1. ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับและคำสั่งของสมาคม
2. ชำระเงินสงเคราะห์ให้เรียบร้อยภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการตายของสมาชิกหรือได้รับหนังสือแจ้งจากสมาคมให้ไปชำระเงิน
3. แจ้งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ชื่อสกุล หรือวัน เดือน ปีเกิด ต่อสมาคม ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
4. แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือตามแบบที่สมาคมกำหนดที่จะเปลี่ยนแปลงบุคคล ผู้จัดการศพ หรือผู้รับเงินสงเคราะห์
การระบุสิทธิการรับเงินค่าจัดการศพ และเงินสงเคราะห์ครอบครัว
สมาคมจะจ่ายค่าจัดการศพ หรือค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวให้แก่บุคคลที่สมาชิกได้ระบุไว้ในใบสมัครให้เป็นผู้รับเงินสงเคราะห์และหรือเป็นผู้จัดการศพ ซึ่งต้องเป็นบุคคลดังต่อไปนี้
1. สามี ภริยา บุตร บิดา มารดา
2. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
3. พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน
4. ปู่ ย่า ตา ยาย
5. ลุง ป้า น้า อา
6. ผู้อุปการะเลี้ยงดูหรือผู้อยู่ในอุปการะเลี้ยงดู
ในกรณีที่สมาชิกไม่ได้ระบุให้บุคคลใดเป็นผู้จัดการศพ หรือมีผู้จัดการศพแต่ไม่อาจจัดการศพของสมาชิกได้ หรือไม่มีบุคคลที่สมาชิกระบุไว้ในใบสมัครให้เป็นผู้จัดการศพ บุคคลตาม ข้อ 1 – ข้อ 6 อาจยื่นคำร้องต่อสมาคมเพื่อขอเป็นผู้จัดการศพ และเมื่อสมาคมเห็นว่าบุคคลนั้นสามารถจัดการศพได้จริง ให้สมาคมจ่ายค่าจัดการศพแก่บุคคลดังกล่าว แต่ถ้าสมาคมเห็นว่าบุคคลนั้นไม่สามารถจัดการศพได้ ให้สมาคมจัดการศพแก่สมาชิกให้เหมาะสมกับฐานานุรูปและศาสนาของสมาชิกนั้น ๆ
ถ้าหากมีเงินเหลือจากการจัดการศพ ให้จ่ายแก่บุคคล ใน ข้อ 1 – ข้อ 6 ตามลำดับก่อนหลัง โดยผู้อยู่ลำดับก่อน ย่อมตัดสิทธิผู้อยู่ลำดับหลัง แต่ถ้ามีผู้อยู่ในลำดับเดียวกัน หลายคน ให้ได้รับเงินในสัดส่วนที่เท่ากัน
การระบุ การยกเลิก การเปลี่ยนแปลงแก้ไขการระบุทายาทผู้รับผลประโยชน์
1. สมาชิกสามารถระบุชื่อผู้มีสิทธิรับเงินค่าจัดการศพและหรือเงินสงเคราะห์ครอบครัวไว้ในใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้
2. กรณีที่ไม่ได้ระบุไว้ในการสมัครครั้งแรก สามารถ ขอยื่นระบุได้ในภายหลัง
3. ผู้ที่จะเป็นผู้ที่ถูกระบุ จะต้องเป็นบุคคลที่กำหนดไว้ตามข้อ 23 (1) – (6) แห่งข้อบังคับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ครูประถมศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2555 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
การจ่ายเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัว
1. จ่ายค่าจัดการศพ ไม่เกิน 100,000 บาท ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ
2. จ่ายค่าพวงหรีดและค่าพิธีกรรมทางศาสนา 1,000 บาท ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ
3. จ่ายเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัวภายใน 90 วัน นับแต่วันที่สมาคมได้จ่ายเงินครั้งแรก
สมาคมจะหักเงินสงเคราะห์ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง และตามที่คณะกรรมการประกาศ
เอกสารหลักฐานประกอบคำร้องขอรับเงินสงเคราะห์
สมาชิกที่ถึงแก่กรรม
1. สำเนาใบมรณบัตร จำนวน 3 ฉบับ
2. สำเนาทะเบียนบ้านประทับตราว่า ตาย จำนวน 2 ฉบับ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2 ฉบับ
4. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - สกุล (ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ
5. สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า (ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ
ผู้จัดการศพ/ผู้ได้รับการระบุให้มีสิทธิ์รับเงิน
1. สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 ฉบับ
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2 ฉบับ
3. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - สกุล (ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ
4. สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า (ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ
5. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 ฉบับ
ข้อบังคับสมาคมฯ ข้อ 21 สมาชิกมีสิทธิดังต่อไปนี้
1. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของสมาคมต่อคณะกรรมการและเรียกร้องให้คณะกรรมการกระทำหรืองดเว้นการกระทำเพื่อประโยชน์ของสมาคม
2. เข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการเพื่อบริหารงานสมาคมรวมทั้งออกเสียงลงคะแนนทุกครั้ง
3. ขอตรวจสอบบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบการดำเนินการของสมาคม ในวันเวลาเปิดทำการ
4. ลงชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 50 คน หรือจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร้องขอต่อคณะกรรมการให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อการใดการหนึ่งเมื่อใดก็ได้
5. ร้องขอต่อนายทะเบียนให้สั่งเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้าได้นัดเรียกหรือได้ประชุมกันหรือได้ลงมติฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือข้อบังคับของสมาคม และต้องร้องขอภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่ลงมติ
6. ขอตรวจเอกสาร คัดเอกสาร หรือขอคัดรายงานและรับรองสำเนาเอกสารของสมาคมจากนายทะเบียน
7. ลงชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร้องขอนายทะเบียน สั่งให้เลิกสมาคมพร้อมด้วยเหตุผล หรือร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งให้เลิกสมาคม
8. แสดงความจำนงต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อเป็นผู้ชำระบัญชีในกรณีที่สมาคมต้องเลิกตามมติที่ประชุมใหญ่
9. ลงชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร้องขอต่อนายทะเบียนเพื่อ แต่งตั้งผู้ชำระบัญชีคนใหม่แทนผู้ชำระบัญชีที่ได้ตั้งไว้
10. อุทธรณ์ต่อสมาคม กรณีคณะกรรมการมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพ
หน้าที่ของสมาชิก
ข้อบังคับสมาคมฯ ข้อ 22 สมาชิกมีหน้าที่ ดังนี้
1. ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับและคำสั่งของสมาคม
2. ชำระเงินสงเคราะห์ให้เรียบร้อยภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการตายของสมาชิกหรือได้รับหนังสือแจ้งจากสมาคมให้ไปชำระเงิน
3. แจ้งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ชื่อสกุล หรือวัน เดือน ปีเกิด ต่อสมาคม ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
4. แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือตามแบบที่สมาคมกำหนดที่จะเปลี่ยนแปลงบุคคล ผู้จัดการศพ หรือผู้รับเงินสงเคราะห์
การระบุสิทธิการรับเงินค่าจัดการศพ และเงินสงเคราะห์ครอบครัว
สมาคมจะจ่ายค่าจัดการศพ หรือค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวให้แก่บุคคลที่สมาชิกได้ระบุไว้ในใบสมัครให้เป็นผู้รับเงินสงเคราะห์และหรือเป็นผู้จัดการศพ ซึ่งต้องเป็นบุคคลดังต่อไปนี้
1. สามี ภริยา บุตร บิดา มารดา
2. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
3. พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน
4. ปู่ ย่า ตา ยาย
5. ลุง ป้า น้า อา
6. ผู้อุปการะเลี้ยงดูหรือผู้อยู่ในอุปการะเลี้ยงดู
ในกรณีที่สมาชิกไม่ได้ระบุให้บุคคลใดเป็นผู้จัดการศพ หรือมีผู้จัดการศพแต่ไม่อาจจัดการศพของสมาชิกได้ หรือไม่มีบุคคลที่สมาชิกระบุไว้ในใบสมัครให้เป็นผู้จัดการศพ บุคคลตาม ข้อ 1 – ข้อ 6 อาจยื่นคำร้องต่อสมาคมเพื่อขอเป็นผู้จัดการศพ และเมื่อสมาคมเห็นว่าบุคคลนั้นสามารถจัดการศพได้จริง ให้สมาคมจ่ายค่าจัดการศพแก่บุคคลดังกล่าว แต่ถ้าสมาคมเห็นว่าบุคคลนั้นไม่สามารถจัดการศพได้ ให้สมาคมจัดการศพแก่สมาชิกให้เหมาะสมกับฐานานุรูปและศาสนาของสมาชิกนั้น ๆ
ถ้าหากมีเงินเหลือจากการจัดการศพ ให้จ่ายแก่บุคคล ใน ข้อ 1 – ข้อ 6 ตามลำดับก่อนหลัง โดยผู้อยู่ลำดับก่อน ย่อมตัดสิทธิผู้อยู่ลำดับหลัง แต่ถ้ามีผู้อยู่ในลำดับเดียวกัน หลายคน ให้ได้รับเงินในสัดส่วนที่เท่ากัน
การระบุ การยกเลิก การเปลี่ยนแปลงแก้ไขการระบุทายาทผู้รับผลประโยชน์
1. สมาชิกสามารถระบุชื่อผู้มีสิทธิรับเงินค่าจัดการศพและหรือเงินสงเคราะห์ครอบครัวไว้ในใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้
2. กรณีที่ไม่ได้ระบุไว้ในการสมัครครั้งแรก สามารถ ขอยื่นระบุได้ในภายหลัง
3. ผู้ที่จะเป็นผู้ที่ถูกระบุ จะต้องเป็นบุคคลที่กำหนดไว้ตามข้อ 23 (1) – (6) แห่งข้อบังคับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ครูประถมศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2555 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
การจ่ายเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัว
1. จ่ายค่าจัดการศพ ไม่เกิน 100,000 บาท ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ
2. จ่ายค่าพวงหรีดและค่าพิธีกรรมทางศาสนา 1,000 บาท ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ
3. จ่ายเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัวภายใน 90 วัน นับแต่วันที่สมาคมได้จ่ายเงินครั้งแรก
สมาคมจะหักเงินสงเคราะห์ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง และตามที่คณะกรรมการประกาศ
เอกสารหลักฐานประกอบคำร้องขอรับเงินสงเคราะห์
สมาชิกที่ถึงแก่กรรม
1. สำเนาใบมรณบัตร จำนวน 3 ฉบับ
2. สำเนาทะเบียนบ้านประทับตราว่า ตาย จำนวน 2 ฉบับ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2 ฉบับ
4. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - สกุล (ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ
5. สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า (ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ
ผู้จัดการศพ/ผู้ได้รับการระบุให้มีสิทธิ์รับเงิน
1. สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 ฉบับ
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2 ฉบับ
3. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - สกุล (ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ
4. สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า (ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ
5. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 ฉบับ
สมาชิกเข้าสู่ระบบ
ข้อมูลทางสถิติ
ข้อมูล ณ 1 พฤศจิกายน 2567
เสียชีวิต
24 ราย
สมาชิกเดือน พฤศจิกายน 2567
10,324 คน
ยอดชำระเดือน พฤศจิกายน 2567
480 บาท
สถิติการเข้าใช้งาน
เข้าชม วันนี้ | 94 |
เข้าชม เมื่อวาน | 146 |
เข้าชม เดือนนี้ | 586 |
เข้าชม ดือนก่อน | 4,242 |
เข้าชม ปีนี้ | 55,491 |
เข้าชม ปีก่อน | 37,879 |